| Best Apples
ไขข้อสงสัย กินแอปเปิ้ลตอนไหนดี แล้วกินแอปเปิ้ลทุกวันดีไหม
แอปเปิ้ล หนึ่งในผลไม้ชนิดหนึ่งที่ว่ากันว่ามีประโยชน์และคุณค่าสารอาหารต่างๆ มากมาย จนเป็นประโยคเปรียบเปรยในภาษาอังกฤษว่า “An apple a day keeps the doctor away.” สามารถแปลความหมายได้ตรงตัวว่า “แอปเปิ้ลหนึ่งลูกต่อวัน ช่วยให้ไกลมือหมอได้”
โดยบทความนี้จะพาทุกๆ คนมาดูกับประโยชน์ของแอปเปิ้ลที่ว่าทำไมแอปเปิ้ลหนึ่งลูกถึงช่วยให้ไกลมือหมดได้ พร้อมทั้งไขข้อสงสัย เรื่องการบริโภคแอปเปิ้ลว่า ควรกินแอปเปิ้ลตอนไหนดี แล้วกินแอปเปิ้ลทุกวันดีไหม เพื่อให้หลายคนได้รู้ถึงประโยชน์ที่แท้จริงของแอปเปิ้ล และสามารถบริโภคแอปเปิ้ลได้อย่างมีประโยชน์ที่สุด
ประโยชน์ของแอปเปิ้ล
ในผลไม้แอปเปิ้ลนั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญต่างๆ มากมาย โดยแอปเปิ้ล 100 กรัม จะมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้ พลังงาน 52 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต 13.81 กรัม, น้ำตาล 10.39 กรัม, เส้นใย 2.4 กรัม, ไขมัน 0.17 กรัม, โปรตีน 0.26 กรัม, น้ำ 85.56 กรัม และยังมีวิตามินต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งประโยชน์ของผลไม้แอปเปิ้ลก็มีเยอะไม่แพ้กัน ได้แก่
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการชะลอวัย
- เหมาะเป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากการทานแอปเปิ้ลจะช่วยลดความอยากอาหารลง
- ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
- มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสูง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรด เช่น โรคไขข้อรูมาติก โรคเกาต์ โรคดีซ่าน
- ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก
- มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดฝ้า
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ และช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้โดยตรง
- ช่วยกำจัดสารพิษต่างๆ ในร่างกาย
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน และช่วยละลายเสมหะ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยบำรุงหัวใจ และลดความดันโลหิต
- ช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดการเกิดโรคภูมิแพ้ และหอบหืด
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก
- ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ช่วยลดไข้และช่วยลดการอักเสบ
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์
- มีประโยชน์มากมายสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ เช่น ลดการเกิดโรคหอบหืด และภูมิแพ้ ป้องกันภาวะโลหิตจาง บำรุงหัวใจ เป็นต้น
กินแอปเปิ้ลตอนไหนดี
หากจะถามว่า แล้วเราควรบริโภคผลไม้แอปเปิ้ลตอนไหนดี จริงๆ สามารถทานผลไม้แอปเปิ้ลได้ทุกเวลา แต่ไม่ควรทานในมื้อเย็นหรือเวลาก่อนนอน เพราะอาจไปเพิ่มกรดในท้องจนทำให้ไม่สบายตัว และนอนหลับได้ยากหรือทำให้ไม่หลับได้ ดังนั้นช่วงเวลาที่แนะนำให้ทานผลไม้แอปเปิ้ลจริงๆ คือ ช่วงเวลามื้อเช้าและมื้อเที่ยงจึงจะดีที่สุด
กินแอปเปิ้ลทุกวันดีไหม
ตามคำกล่าวที่ว่าแอปเปิ้ลหนึ่งลูกต่อวัน ช่วยให้ไกลมือหมอได้ นั้นสามารถพิสูจน์ได้เบื้องต้นแล้วว่าเราสามารถที่จะรับประทานผลไม้แอปเปิ้ลทุกวันโดยที่ยังเกิดประโยชน์แก่ร่างกายทุกวันได้ แต่การทานผลไม้แอปเปิ้ลในทุกๆ วันก็จำเป็นที่จะต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละวันด้วย โดยปริมาณที่เหมาะสมในการบริโภคผลไม้แอปเปิ้ลในแต่ละวัน นั่นก็คือ 2 ลูกต่อหนึ่งวัน
โดยสาเหตุที่ไม่ควรบริโภคผลไม้แอปเปิ้ลเกิน 2 ลูกในหนึ่งวันเป็นเพราะ ในผลไม้แอปเปิ้ลมีปริมาณไฟเบอร์ที่สูง ดังนั้นการบริโภคแอปเปิ้ลในปริมาณมากๆ ภายใน 1 วันก็จะเป็นการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา เช่น อาการท้องอืด หรืออาการปวดท้อง โดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ยิ่งต้องระมัดระวังการบริโภคแอปเปิ้ลให้เป็นอย่างดี ทางทีดีควรบริโภคแค่ละวันละ 1 ลูกจะปลอดภัยกว่า
วิธีรับประทานแอปเปิ้ลให้ได้คุณประโยชน์มากที่สุด
นอกจากระยะเวลา ปริมาณ และความถี่ในการบริโภคผลไม้แอปเปิ้ลให้ได้ประโยชน์สูงสุดแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น
- รับประทานผลไม้แอปเปิ้ลทั้งเปลือก เนื่องจากสารประกอบโพลีฟีนอล และเพคตินในแอปเปิ้ลส่วนใหญ่จะอยู่ที่บริเวณเปลือกนอก ดังนั้นการทานผลไม้แอปเปิ้ลทั้งเปลือกจะทำให้ร่างกายได้รับสารโพลีฟีนอล และเพคตินในปริมาณสูงสุดได้
- รับประทานแอปเปิ้ลเป็นอาหารว่าง โดยแอปเปิ้ลครึ่งลูกให้พลังงานเพียง 70 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเป็นพลังงานที่ต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับการรับประทานมันฝรั่ง ไอศกรีม หรือขนมปัง
- ผู้ป่วยเบาหวานควรสังเกตระดับน้ำตาลในเลือด รวมทั้งจำกัดปริมาณการบริโภคแอปเปิ้ลและน้ำแอปเปิ้ล เนื่องจากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
- ผู้ที่เกิดอาการแพ้อาหาร หลังจากการบริโภคผลไม้แอปเปิ้ล ควรรีบพบแพทย์ในทันที หรือ ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารบางประเภทอยู่แล้วควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะรับประทานผลไม้แอปเปิ้ล
- ควรเลี่ยงการรับประทานเมล็ดแอปเปิ้ล เนื่องจากในเมล็ดแอปเปิ้ลมีไซยาไนด์ซึ่งเป็นยาพิษ หากรับประทานเมล็ดแอปเปิ้ลเข้าไปในปริมาณมาก อาจทำให้ได้รับไซยาไนด์ที่ปล่อยออกมาจากเมล็ดเมื่อเกิดการย่อยในกระเพาะอาหาร
ขอบคุณที่มาข้อมูล: medthai.com, postsod.com, th.theasianparent.com, www.gourmetandcuisine.com, www.pobpad.com, knowhow.asia, sanook.com, www.thaihealth.or.th