ทำความรู้จัก 7 สายพันธุ์แอปเปิ้ลเหลือง ที่จะทำให้คุณหลงรักผลไม้ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น | European Apples From Poland

เนื้อหา

| Best Apples

ทำความรู้จัก 7 สายพันธุ์แอปเปิ้ลเหลือง ที่จะทำให้คุณหลงรักผลไม้ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น

เชื่อว่าหลายคนในที่นี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับแอปเปิ้ลสีเหลืองมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นแอปเปิ้ลที่ไม่ค่อยจะพบเจอได้ตามท้องตลาดทั่วไป มีเพียงแต่ร้านค้าชั้นนำไม่กี่แห่งที่มีการวางจำหน่าย แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแอปเปิ้ลเหลืองกันให้มากขึ้น กับ 7 สายพันธุ์แอปเปิ้ลเหลืองที่อาจทำให้คุณหลงรักผลไม้ชนิดนี้

ทำความรู้จัก 7 สายพันธุ์แอปเปิ้ลเหลือง ที่จะทำให้คุณหลงรักผลไม้ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น

1. Golden Delicious

เริ่มต้นกันด้วยสายพันธุ์แอปเปิ้ลสีเหลืองที่ขึ้นชื่อที่สุดนั่นคือพันธุ์ Golden Delicious โดยแอปเปิ้ลเหลืองพันธุ์นี้จะมีลักษณะผลขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เนื้อมีสีขาว มีรสหวานหอมเหมือนกลิ่นเนยผสมน้ำผึ้ง ซึ่งรสชาติของมันก็จะขึ้นอยู่กับว่าปลูกที่ไหนเพราะ ในสภาพอากาศที่แตกต่างกันก็จะส่งผลต่อรสชาติของแอปเปิ้ลเหลืองสายพันธุ์นี้ โดยสภาพอากาศยิ่งเย็นแอปเปิ้ลเหลืองสายพันธุ์นี้ก็จะมีรสชาติหวานมากยิ่งขึ้นเนื่องจากปริมาณกรดที่เพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกันก็จะมีรสชาติที่เบากว่าเมื่อถูกปลูกในพื้นที่อบอุ่นเนื่องจากปริมาณกรดมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่า

อย่างไรก็ตามแอปเปิ้ลพันธุ์นี้เหมาะที่สุดเมื่อรับประทานผลสดๆ หรือจะใช้ประกอบจานสลัด ทำเป็นพาย ซอส และแยมก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับเบอร์เกอร์และแซนวิชของคุณ แต่ข้อควรระวังคือ เนื่องจากแอปเปิ้ล Golden Delicious มีผิวบาง ไม่ควรเก็บไว้นานในอุณหภูมิห้อง เพราะอาจจะทำให้มีรอยช้ำและเหี่ยวได้

2. Jonagold

Jonagold เป็นแอปเปิ้ลเหลืองลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ Jonathan และ Golden Delicious โดยแอปเปิ้ล Jonagold สายพันธุ์นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นภายในสถานีทดลองการเกษตรแห่งรัฐนิวยอร์กในปี 1968 มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับแอปเปิ้ลเหลืองพันธุ์อื่นๆ มีรสชาติที่กลมกล่อมและสมดุลอย่างลงตัว ผสมผสานรสหวานอมเปรี้ยวของ Jonathan และกลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้งของ Golden Delicious ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื้อสัมผัสด้านในมีสีเหลืองกรอบฉ่ำ เหมาะสำหรับนำมาทำอาหารหรือรับประทานผลสด ใช้ทำซอส แยม หรือสามารถใส่ลงในพาย ทาร์ต มัฟฟิน หรือเค้ก ก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ แอปเปิ้ล Jonagold ยังสามารถผสมผสานลงในจานสลัด หรือเป็นเครื่องเคียงสำหรับอาหารประเภทหมูและผักรากได้อย่างลงตัวไม่แพ้กัน

3. Crispin

แอปเปิ้ลเหลืองสายพันธุ์ Crispin หรือที่เรียกว่า Mutsu เป็นแอปเปิ้ลขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยการผสม Golden Delicious จากอเมริกาและ Indo apple จากญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อของมันจะมีความกรุบกรอบและฉ่ำมาก ด้วยรสชาติที่ผสมผสานระหว่างความหวาน เครื่องเทศ และน้ำผึ้ง โดยแอปเปิ้ลเหลืองสายพันธุ์นี้สามารถบริโภคสดๆ หรือใช้ในการปรุงอาหาร อบ และทำสลัด พาย และซอสต่างๆ ได้ ส่วนใหญ่มักจะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวของแอปเปิ้ลชนิดนี้ และที่สำคัญระยะเวลาในการเก็บรักษาก็ไม่ได้นานมากนัก

4. Newtown Pippin

เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์แอปเปิ้ลเหลืองที่มีขนาดกลาง เนื้อฉ่ำน้ำ มีสีเหลือง หรือสีขาวอมเขียว มีรูปทรงที่หลากหลายรูป บางลูกเป็นลักษณะแบนยาว และบางลูกเป็นผลกลมอ้วน โดยแอปเปิ้ลเหลืองสายพันธุ์นี้จะมีรสชาติที่สมดุลทั้งความเปรี้ยวและความหวาน เพื่อให้รสชาติที่ดีที่สุดของแอปเปิ้ล Newtown Pippin ควรบริโภคแอปเปิ้ลชนิดนี้หนึ่งถึงสองเดือนหลังจากเก็บมาจากต้น มิฉะนั้นมันจะแข็งและไม่อร่อย Newtown Pippin เป็นแอปเปิ้ลเหลืองสารพัดประโยชน์ ที่สามารถใช้ในการปรุงอาหาร อบแห้ง คั้นน้ำ ทำฮาร์ดไซเดอร์ หรือรับประทานสดๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำเยลลี่ แยม พาย หรือซอสแอปเปิ้ล และยังเข้ากันได้ดีกับเครื่องเทศแอปเปิ้ล เช่น ลูกจันทน์เทศและอบเชย อีกด้วย

5. Ginger Gold

แอปเปิ้ลสีเหลืองสายพันธุ์ Ginger Gold เป็นแอปเปิ้ลรูปทรงกรวยที่มีขนาดแตกต่างกันไป มีลักษณะเป็นสีครีม เนื้อละเอียดรสชาติหวาน มีความฝาดปนนิดๆ แอปเปิ้ลเหลือง Ginger Gold มักได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแอปเปิ้ลต้นฤดูที่อร่อยที่สุดพันธุ์หนึ่ง โดย Ginger Gold เหมาะในการทำพายและทาร์ต แต่ก็สามารถรับประทานสดได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถนำไปตากแห้งหรือใส่ในจานสลัดได้ ซึ่งรสชาติของมันก็เข้ากันได้ดีกับสูตรอาหารที่มีอบเชยและน้ำตาลทรายแดง แอปเปิ้ลเหลืองพันธุ์นี้ออกตามฤดูกาลตั้งแต่ปลายฤดูร้อนจนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วง และสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึงสามเดือน

6. Golden Supreme

เป็นแอปเปิ้ลเหลืองอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีขนาดผลกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ มีเนื้อหยาบ สีครีม มีเนื้อสัมผัสที่กรอบและฉ่ำ พร้อมรสชาติหวาน หอม ไม่ค่อยมีรสเปรี้ยว ที่คล้ายกับสายพันธุ์ Golden Delicious แอปเปิ้ลเหลือง Golden Supremes สามารถรับประทานเป็นผลสดๆ หรือสามารถเพิ่มลงในจานอาหารเรียกน้ำย่อยได้เนื่องจากตัวเนื้อแอปเปิ้ลจะไม่ถูกทำให้เป็นสีน้ำตาลเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถนำไปอบหรือใช้ทำไซเดอร์ได้อีกด้วย

7. Blondee

แอปเปิ้ลสีเหลืองสายพันธุ์ Blondee มีลักษณะคล้ายกับสายพันธุ์ต้นกำเนิดอย่าง Gala apple เป็นพันธุ์แอปเปิ้ลเหลืองขนาดกลางที่มีเปลือกสีเหลืองอมน้ำตาลเล็กน้อย เนื้อสัมผัสด้านในมีสีขาว แน่นและกรุบกรอบ ทนทานต่อรอยช้ำ มีรสชาติที่เบา เปรี้ยวน้อย มีกลิ่นของขิง กล้วยหอม น้ำผึ้ง และมะนาว สามารถรับประทานสดหรือใช้ทำพายและทาร์ตได้เนื่องจากสามารถรักษารูปร่างได้หลังจากการอบ นอกจากนี้ยังสามารถผสมกับแอปเปิ้ลอื่นๆ เพื่อทำซอสแอปเปิ้ล โดยแอปเปิ้ลเหลือง Blondee พันธุ์นี้ออกตามฤดูกาลตั้งแต่ปลายฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง และสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานสองถึงสามเดือน

ขอบคุณที่มาข้อมูล crateandbasket.com