แอปเปิ้ล VS กล้วย ผลไม้ชนิดไหนยืนหนึ่งเรื่องลดน้ำหนัก | European Apples From Poland

เนื้อหา

| Best Apples

แอปเปิ้ล VS กล้วย ผลไม้ชนิดไหนยืนหนึ่งเรื่องลดน้ำหนัก

เคยสงสัยกันไหมว่าผลไม้ลดความอ้วนอันดับต้นๆ อย่าง แอปเปิ้ล และ กล้วย หากลองมาเจอกันตัวต่อตัว ใครจะเป็นผู้ที่ยืนหนึ่งในเรื่องผลไม้ลดน้ำหนักตัวจริง โดยเราจะเริ่มจากการทำความรู้จักผลไม้ทั้งสองชนิดนี้กันก่อน

แอปเปิ้ล VS กล้วย ผลไม้ชนิดไหนยืนหนึ่งเรื่องลดน้ำหนัก

แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล

เป็นผลไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีทรงพุ่มขนาดกลาง ผลเป็นผลเดี่ยว มีลักษณะทรงกลม ตรงก้นผลมีรอยบุ๋มลึก ผิวเปลือกบางผิวเรียบ มีเนื้อแน่นฉ่ำน้ำ สีขาวนวล มีรสชาติหวาน หรือหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอม ในกลางผลมีห้าโพรงเรียงอยู่ และมีเมล็ดอยู่ข้างในโพรง มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียกลาง มีปลูกในหลายประเทศมีอากาศหนาวเย็น มีปลูกหลายสายพันธุ์ ในประเทศไทยมีปลูกในภาคเหนือ มีคุณประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง ใช้นำมาเป็นผลไม้รับประทาน ใช้ทำอาหารได้หลายเมนู หรือใช้ทำเป็นเครื่องดื่มต่างๆ ได้

กล้วย

กล้วย

เป็นพืชไม้ดอกล้มลุก มีลำต้นเดี่ยวตั้งตรง มีลักษณะกลมๆ ใบมีลักษณะแบนยาวใหญ่ จะมีปลีออกที่ปลายยอด มีผลเรียงอยู่ในหวี มีรสชาติหวานหอม มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนในเอเชียใต้ และต่อมาได้ปลูกในหลายประเทศทั่วโลก ในประเทศไทยนั้นจะปลูกกล้วยได้ทั่วทุกภาคและปลูกได้ทุกฤดู มีประโยชน์และสรรพคุณ ใช้นำมารักษาโรคต่างๆ ได้หลายอย่าง ใช้นำมาประกอบอาหารต่างๆ ได้หลากหลายเมนู

แอปเปิ้ล VS กล้วย ผลไม้ชนิดใดยืนหนึ่งเรื่องลดความอ้วน

แอปเปิ้ล VS กล้วย ผลไม้ชนิดใดยืนหนึ่งเรื่องลดความอ้วน

แหล่งพลังงาน

ในกล้วย 100 กรัม จะให้พลังงาน 88 แคลอรี ส่วนในแอปเปิ้ลปริมาณที่เท่ากัน จะให้พลังงาน 52 แคลอรี จะเห็นได้ว่าการบริโภคกล้วย 100 กรัม จะให้พลังงานที่มากกว่าแอปเปิ้ล ซึ่งจะเหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักที่ต้องการบริโภคปริมาณน้อยๆ แต่ได้พลังงานมากๆ นั่นเอง

แหล่งไฟเบอร์

เป็นที่ทราบกันดีว่าไฟเบอร์นั้นเป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนัก เพราะมีส่วนช่วยให้การทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกัน ในกล้วยหอม 100 กรัมนั้น มีไฟเบอร์อยู่ประมาณ 2.6 กรัม ส่วนในแอปเปิ้ลที่มีปริมาณ 100 กรัมเช่นกัน จะมีไฟเบอร์อยู่ประมาณ 2.4 กรัม จะเห็นได้ว่าทั้งกล้วยและแอปเปิ้ลมีปริมาณไฟเบอร์ที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยในน้ำหนักที่เท่ากัน ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์แอปเปิ้ลและสายพันธุ์ของกล้วยด้วยเช่นเดียวกัน

แหล่งรวมวิตามินซี

และในแอปเปิ้ลกับกล้วยทั้งสองชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการทำงานของระบบขับถ่ายอีกด้วย โดยในแอปเปิ้ล 100 กรัม จะมีวิตามินซี 4.6 มิลลิกรัม และในกล้วย 100 กรัม จะมีวิตามินซี 8.7 มิลลิกรัม จะเห็นได้ว่าในปริมาณที่เท่ากันกล้วยจะมีวิตามินซีมากกว่าแอปเปิ้ลนั่นเอง

แหล่งแคลเซียมและฟอสฟอรัส

นอกจากนี้สิ่งที่กล้วยหอมและแอปเปิ้ลนั้นมีเหมือนกันก็คือ สารอาหารแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยในกล้วย 100 กรัม จะมีฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม และแคลเซียม 5 มิลลิกรัม ส่วนใน แอปเปิ้ล 100 กรัม มีฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม และแคลเซียม 6 มิลลิกรัม จะเห็นได้ว่าแม้แคลเซียมของผลไม้ทั้งสองชนิดนี้จะไม่ห่างกันมาก แต่ปริมาณฟอสฟอรัสจะเป็นฝั่งกล้วยที่มีมากกว่า

ตัวเลือกที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหรือแอปเปิ้ล ส่วนใหญ่แล้วเราก็ไม่ได้บริโภคอยู่แค่สายพันธุ์เดียวอย่างแน่นอน หากจะดูกันที่ความหลากหลายทางสายพันธุ์และรสชาติแล้ว ต้องบอกเลยว่าผลไม้แอปเปิ้ลนั้นมีสายพันธุ์และรสชาติที่หลากหลายกว่ากล้วยแน่นอน ด้วยสายพันธุ์แอปเปิ้ลทั้งกว่า 7,000 กว่าสายพันธุ์ทั่วโลก และกล้วยที่มีเพียง 200-300 ชนิดทั่วโลก

โดยสรุปแล้วจากข้อมูลที่เรานำมาฝากกัน ผู้ชนะในเรื่องของผลไม้ลดน้ำหนักยืนหนึ่งก็คือ กล้วย นั่นเอง แต่แอปเปิ้ลเองก็ใช่ว่าจะแพ้ขาดรอย เพราะในแต่ละด้านนั้นสูสีกันสุดๆ แต่อย่างไรก็ตามการบริโภคผลไม้เพื่อลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นผลไม้หรืออาหารชนิดไหนก็ควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ พอดี เพราะมิเช่นนั้น อาหารที่เราคิดว่าช่วยลดน้ำหนักได้ อาจจะกลายเป็นผลร้ายมาเพิ่มน้ำหนักให้เราแทนก็เป็นได้